เฮนรี
เบ็กเคอเรล (
Henri Becquerel ) นักฟิสิกส์ชาวฝรั่งเศสพบว่าสารประกอบของยูเรเนียมชนิดหนึ่งคือสารโพแทสเซียมยูเรนิลซัลเฟตสามารถปล่อยรังสีชนิดหนึ่งออกมาได้ตลอดเวลา
เบ็กเคอเรล
ยังพบอีกว่าสารประกอบของยูเรเนียมทุกชนิดก็ปล่อยรังสีดังกล่าวเช่นกัน
และเรียกรังสีนี้ว่า รังสียูเรนิก (
uranic ray ) การค้นพบของเบ็กเคอเรล ทำให้นักวิทยาศาสตร์สงสัยว่าธาตุอื่นๆ
มีการแผ่รังสีเช่นเดียวกับยูเรเนียมหรือไม่
มารี คูรี ( Marie Curie ) และสามีได้ทดลองกับธาตุหลายชนิดและพบว่าธาตุบางชนิด
เช่น พอโลเนียม เรเดียม มีการแผ่รังสีได้เช่นเดียวกับยูเรเนียม
เรียกธาตุที่มีการแผ่รังสีได้เองว่า ธาตุกัมมันตรังสี ( radioactive element )
และปรากฏการณ์การแผ่รังสีได้เองอย่างต่อเนื่องเช่นนี้
เรียกว่า กัมมันตภาพรังสี ( radioactivity )
การศึกษาพบว่า รังสีที่ธาตุกัมมันตรังสีแผ่ออกมามี 3 ชนิด คือ รังสีแอลฟา ( alpha ray ) รังสีบีตา ( beta ray ) และรังสีแกมมา
( gamma ray ) นิยมเขียนแทนด้วยสัญลักษณ์ a b และ g ตามลำดับ
รังสีแอลฟา เป็นนิวเคลียสของธาตุฮีเลียม สามารถทำให้สารที่ผ่านเกิดการแตกตัวเป็นไอออนได้ดี จึงเสียพลังงานอย่างรวดเร็ว ดังนั้นรังสีแอลฟาจึงมีอำนาจทะลุผ่านน้อยมาก สามารถเดินทางผ่านอากาศได้ระยะทางเพียง 3 –
รังสีบีตา เป็นอิเล็กตรอน สามารถผ่านอากาศได้ประมาณ 1 –
รังสีแกมมา เป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความยาวคลื่นสั้นมาก
สามารถทะลุผ่านแผ่นอะลูมิเนียมที่หนาหลายเซนติเมตรได้จึงมีอำนาจทะลุผ่านมากที่สุดในบรรดารังสีทั้งสามชนิด
ตาราง
ชนิดและสมบัติของรังสีที่แผ่จากธาตุกัมมันตภาพรังสี
รังสี
|
สัญลักษณ์
|
ประจุ
|
ชนิดของอนุภาค
|
ระยะทางที่ผ่านอากาศได้
|
วัสดุที่กั้นได้
|
แอลฟา
|
a
|
บวก
|
นิวเคลียสของฮีเลียม
|
3-5
cm
|
กระดาษบางๆ
|
บีตา
|
b
|
ลบ
|
อิเล็กตรอน
|
1-3
m
|
แผ่นอะลูมิเนียม
|
แกมมา
|
g
|
ไม่มีประจุ
|
คลื่นเหล็กไฟฟ้า
|
มากกว่า
3 m
|
ตะกั่วหนา
|
เรามาทบทวนความรู้กันอีกครั้งดีกว่า

กฎการสลายตัวของธาตุกัมมันตรังสี กล่าวไว้ว่า
1. จำนวนนิวเคลียสของธาตุกัมมันตรังสีที่สลายไปในหนึ่งหน่วยเวลา
( อัตราการสลายตัวของธาตุกัมมันตรังสี ) จะเป็นสัดส่วนโดยตรงกับจำนวนนิวเคลียสที่มีอยู่
2. ในการสลายตัวของธาตุกัมมันตรังสี
โอกาสที่นิวเคลียสแต่ละตัวจะสลายไปในหนึ่งเวลาเท่ากันหมดทุกนิวเคลียส
ซึ่งเป็นสมบัติเฉพาะตัวของธาตุกัมมันตรังสีแต่ละชนิด
3. อัตราการสลายตัวของสารกัมมันตรังสีไม่ขึ้นกับสิ่งแวดล้อม
เช่น อุณหภูมิ หรือความดัน
ประโยชน์และอันตรายของกัมมันตภาพรังสี
ประโยชน์ของกัมมันตภาพรังสี
1. ด้านการเกษตร ได้แก่
-
ควบคุมและกำจัดแมลง
-
ใช้รังสีปรับปรุงพันธุ์พืช
ด้วยการดัดแปลงทางพันธุกรรม
-
ใช้ในการถนอมผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร
2.
ด้านอุตสาหกรรม ได้แก่
-
การใช้รังสีเป็นสารติดตาม
-
เสริมคุณภาพน้ำยางในธรรมชาติด้วยรังสี
-
เสริมคุณภาพฉนวนไฟฟ้า
-
กำจัดแก๊สพิษออกจากการเผาไหม้ในอุตสาหกรรม
-
ควบคุมความหนาของแผ่นโลหะให้สม่ำเสมอ
-
การถ่ายภาพด้วยรังสีอุตสาหกรรม
3. การใช้กัมมันตภาพรังสีในการหาอายุวัตถุโบราณ
4. ใช้ในการแพทย์
-
เพื่อวินิจฉัยโรค
-
เพื่อบำบัดโรค
อันตรายจากกัมมันตภาพรังสี
1. การได้รับปริมาณมากจะมีผลต่อร่างกาย
ทำให้เกิดโรคเรื้อรัง เสียชีวิตด้วยโรคต่อมา เช่น โรคลูคิเมีย โรคมะเร็ง
โรคคีลอยด์ ต้อแก้วตา
โรคที่เกิดจากเซลล์ไขกระดูกถูกทำลายเป็นต้น
2. การทำเป็นอาวุธสงคราม
เช่นระเบิดนิวเคลียร์ อำนาจการทำลายล้างจะมากมายมหาศาลมาก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น